Monday, November 25, 2013

A Watched Pot Never Boils: น้ำไม่เดือด คนเดือด

เวลาที่เราจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งทั้งที่รู้ว่า สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นตามกาลตามปัจจัย ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
น้ำไม่เดือด คนเดือด
เช่น เมื่อไหร่จะถึงเช้าวันจันทร์เสียที อยากจะปรี่ไปทำงานจะแย่แล้ว (จะมีใครคิดแบบนี้จริงๆ ไหมคะ ^_^) เราก็จะค้นพบว่า วันจันทร์ที่เรารอคอยนั้น ดูเหมือนจะมาไม่ถึงเสียที ทั้งๆ ที่เวลาก็เดินไปตามปกติของมัน สำหรับฝรั่งที่ดื่มกาแฟกันทุกเช้า เค้าจะเคยชินกับการต้มน้ำ และรู้ว่าการรอให้น้ำเดือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่รีบๆ จะสายแหล่มิสายแหล่นี่มันทรมานใจขนาดไหน ดังนั้นเมื่อจะเตือนใจใครให้รู้จักการปล่อยใจให้รอคอยอย่างอดทน เพราะสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ตามกาลตามเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น เราจะเอาการจดจ่อของเราไปแทรกแซงไม่ได้ เค้าก็จะพูดกันว่า A watched pot never boils
เวลาจดจ่อให้น้ำเดือด แล้วมันดันไม่เดือด แทนที่น้ำจะปุดๆ กลับกลายเป็นใจเราเสียมากกว่าที่ตุบๆ ไม่หยุดด้วยความโมโห จึงเกิดสำนวน Boil over ที่แปลเหมือน เดือดดาล หรือ โมโห ในบ้านเรานี่เอง ซึ่งนอกจากจะใช้เดี่ยวๆ เพื่อบอกความรู้สึกว่า I’m really boiled over. ฉันกำลังเดือดสุดๆ อยู่ตอนนี้ เรายังมักจะเห็นในรูป Boil over with anger หรือ rage ซึ่งย้ำเข้าไปว่า เดือดดาลด้วยแรงโทสะ ซึ่งก็คือ Anger หรือ Rage ซึ่งมีความหมายว่า ความโกรธ แต่ถ้าอยากจะบอกว่า เดือดจนจะแผดเผาใครได้ ต้องใช้ Boil over for someone เช่น I’m really boiled over for him. ฉันละเดือดเค้าจริงๆ เป็นต้นค่ะ
เคยมีนักปรัชญาเอาทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่ชื่อ Chaos Theory หรือทฤษฎีแห่งความยุ่งเหยิง มาอธิบายปรากฏการณ์ที่ตรงกับสำนวน A watched pot never boils เอาไว้ว่าสิ่งที่พอจะคาดเดาหรือทำนายผลได้ จะกลายเป็นความยุ่งเหยิงที่คาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้เลยหากถูกแทรกแซงแม้ด้วยปัจจัยที่ดูแสนจะเล็กน้อย ซึ่งปัจจัยที่แทรกแซงน้ำไม่ให้เดือดเสียทีนี้ก็คือ “ใจ” เรานี่เอง หากเอา “ใจ” วางไว้ในที่ที่มันควรจะอยู่ สิ่งต่างๆ ก็จะดำเนินไปตามวิถีไม่มีใครต้องร้อนรน



ที่มา:thairath

No comments:

Post a Comment